ประภาคารแหลมสิงห์ : อยู่ไม่ไกลจากเกาะเปริดนัก หลังจากเดินทางข้ามสะพานแหลมสิงห์จะถึงสามแยก ให้เลี้ยวซ้ายไปทางอุทยานแห่งชาติแหลมสิงห์ และไปต่ออีกประมาณ 1.5 กม. ถึงสามแยกให้เลี้ยวซ้าย ไปทางศาลกรมหลวงชุมพร ปากทางเข้าจะมีร้านอาหารทะเลชื่อ เสม็ดแดง ซึ่งเป็นร้านอาหารริมทะเล มีอาหารทะเลหลากหลายชนิด ราคาย่อมเยา รสชาติจัดจ้าน หากเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ผมแนะนำให้แวะพักที่ร้านนี้ก่อน เมื่อเดินทางเข้าเขตพื้นที่ดูแลของกองทัพเรือ ถัดจากทางเข้าประมาณ 100 ม. ก็จะพบศาลกรมหลวงชุมพร ตั้งอยู่ริมทะเล ซึ่งทั้งทหารเรือและชาวประมงในแถบพื้นที่แห่งนี้ จะแวะเวียนมาขอพรและสักการะด้วยความเคารพ ภายในจะมีรูปปั้นกรมหลวงชุมพร เพื่อให้นักเดินทางได้แวะกราบไหว้ ก่อนที่จะเดินเท้าขึ้นเขาอีกประมาณ 500 ม. ด้านบน จะพบกับ “ประภาคารแหลมสิงห์” ที่ชาวเรือใช้เป็นเครื่องหมาย เพื่อช่วยการเดินเรือที่มีความสำคัญมาก โดยใช้แสงไฟแสดงที่หมาย ในการนำเรือเข้าร่องน้ำ อ่าว หรือเขตท่าเรือ ซึ่งห่างจากประภาคารประมาณ 50 ม. ก็จะถึงลานดินบนยอดเขาแหลมสิงห์ที่สามารถมองเห็นหินที่เป็นรูปสิงโต หากในช่วงเวลาน้ำขึ้น จะเห็นเป็นรูปหัวสิงโต และถ้าน้ำลง จะเป็นรูปสิงโตหมอบ ซึ่งเป็นที่มาของ อ. แหลมสิงห์ ในยุคปัจจุบัน บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นเกาะต่างๆ ได้อีกมากมาย ประภาคารแหลมสิงห์ เป็นเขตพื้นที่ดูแลของทหารเรือ (กรมอุทกศาสตร์ทหารเรือ)
จุดเด่น : หากไปถึงจุดชมวิว ที่ได้ขึ้นชื่อว่าจุดชมวิวที่สวยที่สุดในแหลมสิงห์ จะเห็นวิวแหลมสิงห์ 360 องศา และ จุดสำคัญคือสิงโตหิน สัญลักษณ์ของอำเภอแหลมสิงห์ และยังมองเห็น เกาะนมสาว เกาะจุฬา เกาะเปริด หากท้องฟ้าปลอดโปร่งจะมองเห็นได้ไกลถึงเกาะช้างอีกด้วย
เวลาทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06:00-18:00 น. ไม่มีค่าใช้จ่าย
ที่ตั้ง : อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
จุดชมวิวยอดเขาประภาคารแหลมสิงห์
ที่เที่ยวลับ สิงโตหิน จุดกำเนิดแหลมสิงห์
เดินขึ้นเขาหลังฝนตก : ประภาคารแหลมสิงห์ & จุดชมวิวสวยที่สุด
ตามรอยเสด็จประพาสของพระพุทธเจ้าหลวง ณ ประภาคารแหลมสิงห์
เส้นทาง ขึ้นเขาแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี